ก่อนที่เราจะลงมือพัฒนา API มี 2 คำถามที่เราต้องตอบให้ได้ก่อนคือ เป้าหมายของ API คืออะไร และใครที่จะเป็นลูกค้าหรือผู้ใช้ API การกำหนดเป้าหมายของ API จะทำให้เราต้อง
ตัดสินใจเกี่ยวกับภาษาโปรแกรม โปรโตคอล แพลตฟอร์ม และรูปแบบข้อมูลที่เราจะใช้ ในขณะที่การกำหนดผู้ใช้งานจะนำไปสู่คำถามที่ไม่ใช่คำถามเชิงเทคนิก เช่น การกำหนดเวอร์ชั่น (versioning) การรับรองการใช้งาน (authentication) และสิทธิการใช้งาน (licensing) ดังนั้นเราต้องตระหนักถึงทั้ง 2 คำถามอยู่เสมอ
วิธีการออกแบบ API มีอยู่หลายวิธี เริ่มจากวิธี 4 ขั้นตอนในการสร้างต้นแบบ API (1) โดยเราเริ่มจากการกำหนดสเปกของ API ขนาดครึ่งหรือหนึ่งหน้ากระดาษเพื่อระบุเป้าหมายและผู้ใช้งานรวมถึงรายละเอียดต่างๆอันเนื่องมาจาก 2 คำถามข้างต้น ทั้งภาษาโปรแกรม โปรโตคอล แพลตฟอร์ม รูปแบบข้อมูลที่เราจะใช้ การกำหนดเวอร์ชั่น การรับรองการใช้งาน และสิทธิการใช้งาน (2) จากนั้นจึงนำไปขอความคิดเห็นตามกระบวนการในการทำสเปกที่กล่าวถึงไปก่อนหน้านี้ ดังนั้นเราต้องไปพูดคุยกับผู้คนจริงๆเพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่า API ของเราตอบสนองความต้องการที่แท้จริงได้โดยไม่เกิดปัญหาในอนาคตในระยะยาว ไม่เกิดหนี้ทางเทคนิค และตอบสนองทิศทางองค์กร (3) ขั้นตอนถัดไปเป็นการสร้าง API ต้นแบบซึ่งขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก เราจะสร้างต้นแบบขึ้นมาอย่างน้อย 3 ต้นแบบและจำลองการใช้งานของลูกค้าสำหรับทั้ง 3 ต้นแบบเพื่อทำความเข้าใจว่าจริงๆแล้วแบบใหนที่เหมาะสมที่สุด รวมถึงเราตัองคำนึงถึงข้อผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้นจากการใช้งานและปรับปรุง API ให้รองรับเรื่องการจัดการข้อผิดพลาดด้วย (4) จากนั้นต้องมีเอกสารประกอบการใช้งาน API ซึ่งหลักๆจะต้องบอกว่า API นี้คืออะไรและทำอะไรได้ รวมถึงตัวอย่างการใช้งานและการจัดการข้อผิดพลาด เอกสารประกอบจะต้องให้มุมมองของการนำใช้งานเพราะ API ตัวเดียวกันนี้ลูกค้าที่แตกต่างกันสามารถนำไปใช้งานได้ในหลายๆแบบที่แตกต่างกันเพื่อตอบสนองผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน การอธิบายในมุมมองการนำใช้งานจะช่วยให้เข้าใจ API ง่ายขึ้น ขั้นตอนในการทำงานตามที่กล่าวมาโดยเฉพาะในขั้นตอน 1-3 จะถูกทำวนซ้ำๆไปจนกว่าเราจะได้ API ที่เหมาะสมเพียงพอที่จะนำไปใช้เพราะหลังจากที่เราประกาศใช้ API แล้วมันจะอยู่ไปตลอดกาล