การประเมินคุณค่า (validation) ของผู้ใช้งานที่มีต่อแต่ละความต้องการเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญสำหรับทีมพัฒนา เพราะจะสามารถพัฒนาและทดสอบได้สอดคล้องกับความคาดหวังของลูกค้า แต่ประเมินคุณค่าจะต้องสามารถตรวจวัดและทดสอบได้ ดังนั้นจึงต้องมีการกำหนดในสเปคร่วมกันระหว่างผู้ใช้งานและทีมพัฒนา หากไม่สามารถระบุความคาดหวังได้เราอาจจะต้องกลับไปรวบรวม วิเคราะห์ และหารือเกี่ยวกับความต้องการกันใหม่ เพราะเป้าหมายที่สามารถตรวจวัดได้จะทำได้ง่ายกว่าเป้าหมายที่ไม่สามารถระบุได้ว่าจะตรวจวัดอย่างไร การที่เราสามารถระบุการตรวจวัดและทดสอบตามความคาดหวังได้แสดงว่าความต้องการนั้นถูกระบุไว้อย่างชัดเจนและเป็นรูปธรรม ทำให้ผู้ใช้งานและทีมพัฒนามีความเข้าใจตรงกัน และการประเมินคุณค่าช่วยให้มีโอกาสที่จะพบจุดที่จะทำให้เกิดปัญหาแต่เนิ่นๆ แทนที่จะเป็นปัญหาหลังจากติดตั้งใช้งานจริงไปแล้ว บางความคาดหวังอาจจะเป็นเรื่องง่ายๆ เช่น ข้อมูลต้องเรียงลำดับในคอลัมภ์ที่ 1 ตามด้วยคอลัมภ์ที่ 2 วิธีการวัดและทดสอบคือทำให้ได้ตามที่ระบุ แต่ในบางเรื่อง เช่น ประสิทธิภาพ อาจจะดูเป็นนามธรรมจนเกินไป ดังนั้นเราจึงต้องระบุรายละเอียดย่อยลงไปเพื่อหาจุดที่สามารถวัดและทดสอบได้ เช่น ประสิทธิภาพอาจจะขึ้นอยู่กับเรื่องเวลา และลงรายละเอียดไปอีก เช่น เป็นเวลาที่ข้อมูลจะต้องแสดงบนหน้าจอหลังจากผู้ใช้กดปุ่มค้นหาและกำหนดเวลาที่ต้องการ หรือประสิทธิภาพอาจจะขึ้นอยู่กับการรองรับการใช้งาน เช่น รองรับผู้ใช้งานพร้อมกันได้กี่คนในช่วงเวลาปรกติและในช่วงเวลาที่มีการใช้งานสูง หรือ สามารถทำรายการได้กี่รายการใน 1 วินาที หรือ ประสิทธิภาพอาจจะขึ้นอยู่กับปริมาณทรัพยากรของระบบคอมพิวเตอร์ที่ถูกใช้งาน เช่น พื้นที่เก็บข้อมูล หรือ หน่วยความจำ ที่ต้องถูกใช้งานไม่เกินตามจำนวนที่กำหนด เป็นต้น