สำหรับวัตถุในรูปแบบของการเขียนโปรแกรมด้วยภาษาจาวาก็จะใช้แนวคิดเดียวกันกับวัตถุในโลกจริงตามที่กล่าวมา โดยจะเขียนโปรแกรมเพื่อกำหนดคลาส (class) ซึ่งเป็นเหมือนแผนผังหรือพิมพ์เขียวของวัตถุที่เราต้องการสร้าง โดยในคลาสจะประกอบด้วยฟิลด์ (field) ซึ่งคือตัวแปรที่ใช้เก็บสถานะของวัตถุ และเมธอด (method) ซึ่งก็คือส่วนของโปรแกรมที่กำหนดพฤติกรรมของวัตถุ และในการใช้งานเราจะสร้างวัตถุหรือในภาษาจาวาจะเรียกว่าออบเจกต์ (object) ขึ้นมาจากคลาสที่เรากำหนด โดยแต่ละออบเจกต์ที่สร้างขึ้นมาจะเรียกว่าอินแสตนซ์ (instance)
ในการเรียกใช้งานอินแสตนซ์จะเหมือนกับการใช้งานวัตถุในโลกจริงคือเรียกใช้งานผ่านทางพฤติกรรมหรือเมธอดเพื่อเปลี่ยนสถานะหรือฟิลด์ของแต่ละอินแสตนซ์ให้เป็นไปตามที่เราต้องการ แต่ละอินแสตนซ์จะมีความเป็นอิสระจากอินแสตนซ์อื่นถึงแม้จะถูกสร้างมาจากคลาสเดียวกัน เช่นเดียวกันกับวัตถุในโลกจริง เช่น ถ้าเราพิจารณาว่ารถยนต์เป็นวัตถุ รถยนต์ในถนนแต่ละคันคือแต่ละอินแสตนซ์ที่ถูกสร้างมาจากพิมพ์เขียวของรถแต่ละคัน และรถแต่ละคันมีสถานะและพฤติกรรมของตนเองที่แตกต่างกันไปตามความต้องการของผู้ขับขี่ เช่น บางคันเลี้ยวซ้าย บางคันเลี้ยวขวา บางคันตรงไป บางคันจอดอยู่เฉยๆ เป็นต้น
พื้นฐานของการเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุในภาษาจาวาที่สำคัญที่เราต้องเรียนรู้และเข้าใจ คือ คลาส ออบเจกต์ และ เมธอดคอนสตรักเตอร์ (constructor) บวกกับหลักการในการเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุ คือ คุณสมบัติการห่อหุ้ม (encapsulation) คุณสมบัติการสืบทอด (inheritance) คุณสมบัติความหลากหลายรูปแบบ (polymorphism) และคุณสมบัติการประกาศรูปแบบ(abstraction)