หลังจากที่ init ถูกเรียกขึ้นมา init จะทำงานตามไฟล์สคริปที่ถูกกำหนดไว้เพื่อเริ่มต้นการทำงานโปรเซสและบริการต่างๆรวมถึงเริ่มต้นการเข้าระบบด้วยโหมดข้อความ (text mode) ซึ่งจะแสดงหน้าจอให้เราใส่ชื่อและรหัสผ่านหลังจากนั้นจึงแสดงหน้าจอคอนโซลและเครื่องหมายพร้อมรับคำสั่ง (shell prompt) แต่ถ้าเราใช้การเข้าระบบแบบ GUI เราจะเห็นหน้าจอกราฟฟิกเพื่อให้เราใส่ชื่อและรหัสผ่านแทน
เมื่อเราเข้าระบบมาแล้วเราจะเห็นหน้าเดสก์ทอปซึ่งถ้าเราต้องการใช้งานหน้าจอคอนโซลเราสามารถเรียกใช้งานได้โดยการกด Ctrl+Alt+ F1 – F6 และหากต้องการกลับมาที่หน้าเดสก์ทอปทำได้โดยกด Ctrl+Alt+ F7 (ในแต่ละดิสทริบัวชั่นอาจจะแตกต่างกันไป เช่น ในอูบุญตูเดสก์ทอป เวอร์ชั่น 18.10 ค่าเริ่มต้นจากการติดตั้งคือ Ctrl+Alt+ F1 คือ หน้า log in ส่วน Ctrl+Alt+ F2 คือ GUIและหน้าจอคอนโซล คือ Ctrl+Alt+ F3 – F6)
สังเกตุว่าเราสามารถเรียกใช้หน้าจอคอนโซลได้ตั้งแต่ F1 – F6 นั่นคือเราสามารถมีหน้าจอคอนโซลได้ 6 หน้าจอ แต่ละหน้าจอเรียกว่าเทอร์มินัล (Terminal) ซึ่งสามารถมองได้ว่าเป็นคนละหน้าจอไม่เกี่ยวข้องกัน แต่ละหน้าจอสามารถ log in เข้าใช้งานโดยคนละผู้ใช้งานก็ได้ การเรียกใช้งานโปรแกรมในแต่ละหน้าจอคอนโซลก็ไม่เกี่ยวกัน ทั้งนี้เป็นเพราะระบบปฏิบัติการลินุกซ์รองรับการทำงานแบบหลายงานและหลายผู้ใช้งานพร้อมๆกัน
หน้าจอคอนโซลโดยทั่วไปจะเป็นแอพพลิเคชั่นแบชเชลล์ (bash shell – GNU Bourne Again Shell) หรืออาจจะเป็นแอพพลิเคชั่นเชลล์อื่นๆ เช่น tcsh หรือ zsh เป็นต้น ก็ได้ ขึ้นอยู่กับแต่ละดิสทริบิวชั่น
แบชเชลล์เป็นแอพพลิเคชั่นที่ทำหน้าที่เป็นส่วนติดต่อกับผู้ใช้ในแบบส่งคำสั่ง เมื่อเข้ามาที่หน้าจอคอนโซลแล้วแล้วจะพบบรรทัดรอรับคำสั่ง โดยผู้ใช้งานคีย์คำสั่งที่ต้องการให้ระบบปฏิบัติการทำงานและแอพพลิเคชั่นเชลล์จะทำหน้าที่แปลคำสั่งดังกล่าว (Command Line Interpretor) เพื่อให้ระบบปฏิบัติการทำงานตามคำสั่งของเราอีกทีหนึ่ง เมื่อระบบทำงานตามคำสั่งแล้วก็จะแสดงบรรทัดรอรับคำสั่งถัดไป
ภาพแสดงตัวอย่างหน้าจอคอนโซล